รีวิว Family Switch (2023) ครอบครัวตัวสลับ

Family Switch ครอบครัวตัวสลับ ภาพยนตร์แนวคอมเมดี้จากผลงานของ McG นำแสดงโดย Jennifer Garner, Ed Helms โดยเป็นเรื่องที่สร้างจากหนังสือนิทานสำหรับเด็กเรื่อง Bedtime for Mommy ที่ตอนนี้ได้ลงผ่านช่องทางสตรีมมิ่งผ่าน Netflix กับเรื่องราวสุดปั่นป่วนของครอบครัวหนึ่งที่ต้องมาสลับร่างกันเองด้วยเหตุการณ์สุดปาฏิหาริย์บางอย่าง จนทำให้พวกเขาต้องเรียนรู้และรักกันมากยิ่งขึ้น

สำหรับเนื้อหาจะได้เล่าเรื่องราวของครอบครัว วอล์กเกอร์ ที่ประกอบด้วย บิล (แสดงโดย Ed Helms) คุณพ่อที่เป็นครูอยู่โรงเรียนไฮสคูล, เจส (แสดงโดย Jennifer Garner) คุณแม่ที่เป็นหัวหน้าทีมสถาปนิกที่มีแววรุ่ง, ซีซี (แสดงโดย Lily Rose Depp) สาวน้อยที่เป็นนักฟุตบอลฝีเท้าโดดเด่นของทีมหญิงล้วน และ ไวแอตต์ (แสดงโดย Alexander Calvert) หนุ่มน้อยที่ฝักใฝ่ในวิทยาศาสตร์ขั้นสุดและมีแววได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดัง

โดยครอบครัววอร์กเกอร์นั้นกำลังเตรียมตัวสำหรับวันคริสต์มาสที่กำลังจะมาถึง แต่ความสัมพันธ์ภายในครอบครัวกลับไม่ค่อยดีนัก เพราะทั้งบิลและเจสต่างก็ทำงานหนักจนไม่มีเวลาให้กับลูกๆ ซีซีและไวแอตต์ต่างก็รู้สึกว่าไม่ได้รับการสนับสนุนอะไรจากพ่อแม่เลย ทำให้ทั้งครอบครัวต่างก็รู้สึกห่างเหินจนชีวิตแต่ละวันแทบจะไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันเลย

กระทั่งวันหนึ่ง ครอบครัววอล์กเกอร์เดินทางไปชมปรากฏการณ์ดาวเคราะห์เรียงตัวกัน 3 ดวง ณ จุดชมวิวบนภูเขา ซึ่งในระหว่างทางก็ได้พบกับหญิงแก่ปริศนาที่เปรียบเสมือนนางฟ้าที่มาแกล้งให้ครอบครัวนี้สลับร่างกัน เพื่อให้เข้าใจกันและกันมากขึ้น และเมื่อตื่นเช้าขึ้นมา ทุกคนก็พบว่าตัวเองได้สลับร่างกัน บิลกลายเป็นซีซี เจสกลายเป็นไวแอตต์ ซีซีกลายเป็นบิล และไวแอตต์กลายเป็นเจส

ความวุ่นวายจึงบังเกิดขึ้น เพราะบิลที่ต้องใช้ชีวิตและพยายามทำตัวเป็นสาวน้อยนักฟุตบอล เจสต้องพยายามทำตัวเป็นหนุ่มน้อยนักวิทยาศาสตร์สุดฉลาด ซีซีต้องพยายามทำตัวเป็นครูไฮสคูลของพ่อให้ได้ และไวแอตต์ต้องพยายามทำตัวเป็นคุณแม่ที่แสนจะจู้จี้จุกจิกแบบนี้ ทำให้ต่างก็ต้องปรับตัวกับร่างใหม่ของตัวเอง และเผชิญกับสถานการณ์ที่แทบจะปวดหัวปั่นป่วนกันสุดๆ เกิดเป็นความอลเวงสุดฮาที่จะทำให้ทุกคนในบ้านได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจกันมากขึ้น

นี่คือหนังคอมเมดี้ที่ใช้พล็อตการสลับร่างสไตล์เดิมๆ ที่ต้องบอกว่าก็มีมาเยอะและหารับชมได้ทั่วไปจากหลายๆ เรื่อง เพียงแต่ความน่าสนใจจะอยู่ที่มุกตลกและบทต่างๆ ที่ค่อนข้างจะทันสมัยมากขึ้น การตบมุกที่เข้ากับยุคปี 2023 ได้จนทำให้มันเรียกเสียงหัวเราะได้จริงๆ การดำเนินเรื่องก็ถือว่าสนุกและน่าติดตาม เพียงแต่การใช้สูตรสำเร็จของหนังแนวสลับร่างอาจจะดูเชยไปหน่อยในยุคนี้แล้ว

ด้วยความที่เป็นภาพยนตร์แนวตลก คอมเมดี้แบบขายความฮากันสุดๆ เราจึงได้รับชมกับมุกฮาๆ ที่มาพร้อมกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ตัวละครแต่ละตัวต้องเจอ ก็จะมีความแตกต่างกันไปจนทำให้รู้สึกว่าไมได้เบื่อเลยที่หนังจะเล่นพล็อตเดิมๆ แบบนี้ ถ่ายทอดอารมณ์ความฮาของตัวละครได้ดีมากๆ ยิ่งการสลับร่างที่ต้องทำตัวให้เป็นอีกคนหนึ่ง ทั้งๆ ที่ยังติดนิสัยเดิมของตัวเองและหลุดออกมานั้นก็เรียกเสียงหัวเราะได้จริงๆ เลย

สรุปว่าให้ Family Switch เป็นภาพยนตร์คอมเมดี้ที่ตลก ดูง่าย เรียกเสียงหัวเราะ และรับชมได้ทั้งครอบครัว แม้บทสรุปของเรื่องค่อนข้างง่ายดายไปสักหน่อย เหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นเร็วและจบลงง่ายเกินไปจนไม่ค่อยอินเท่าที่ควร ซึ่งน่าจะมีบทสรุปที่เข้มข้นกว่านี้สักหน่อยจะดีมากๆ แต่โดยรวมนั้นให้เป็นเรื่องที่อบอุ่น รับชมได้ทุกเพศทุกวัย ได้ความประทับใจดีๆ หลังรับชมจบแน่นอน