รีวิว My Big Fat Greek Wedding 3 (2023)

รีวิว My Big Fat Greek Wedding 3 (2023)

ภาคนี้จะดำเนินเรื่อง 16 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อนที่ทอเรียกำลังเตรียมแต่งงานกับไมเคิลที่ป่วยโรคอัลไซเมอร์ แต่ดันต้องมาจัดวิวาห์สุดว้าวุ่น

My Big Fat Greek Wedding 3 ภาพยนตร์โรแมนติกคอมเมดี้เป็นไตรภาคกันแล้วสำหรับเฟรนไชน์เรื่องนี้ ซึ่งเขียนบทและกำกับโดย Nia Vardalos นำแสดงโดย Vardalos, John Corbett, Louis Mandylor, Elena Kampouris, Gia Carides และอีกมากมาย

สำหรับภาคนี้จะดำเนินเรื่อง 16 ปีหลังจากเหตุการณ์ในภาคก่อน ทอเรีย ลูกสาวของทัลลา และไอออน ที่กำลังเตรียมแต่งงานกับไมเคิล หนุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายยิวที่กำลังมีปัญหาสุขภาพ และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ระยะเริ่มต้นจนเริ่มลืมสิ่งต่างๆ จนกังวลว่าจะจำลูกๆ และภรรยาไม่ได้ ขณะเดียวกันทั้งคู่ก็ต้องหาวิธีจัดงานแต่งงานที่ตอบสนองความต้องการของพ่อแม่จากทั้งสองฝ่าย แถมยังต้องหาวิธีรับมือกับโรคอัลไซเมอร์ของไอออนพร้อมกันอีกด้วย

ต้องบอกว่าเรื่องราวของ My Big Fat Greek Wedding ที่เดินทางมาถึงภาคที่ 3 กันแล้ว ซึ่งก็ยังเป็นเรื่องที่สามารถรักษามาตรฐานความฮา และความอบอุ่นของเรื่องราวความรักได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิมจริงๆ ในภาคนี้ตัวละครต่างๆ ก็ยังคงน่ารักและเป็นที่จดจำทีเดียว ที่สำคัญต้องบอกว่าเน้นเรื่องของการให้แง่คิดเกี่ยวกับความรัก ครอบครัว และความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมต่างๆ ของแต่ละตัวละครด้วย เราจะได้เห็นว่าความรักสามารถเอาชนะอุปสรรคใดๆ ก็ได้เพราะครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญที่อบอุ่นและเข้าใจกันเสมอนั่นเอง

เราจะเห็นได้จากทอเรียและไอออนที่ทั้งคู่ก็รักกันมาก และพยายามทำทุกอย่างเพื่ออยู่ด้วยกัน แม้ว่าไอออนจะป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ก็ตาม ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่าครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ การมีครอบครัวที่คอยสนับสนุนอยู่เสมอแบบนี้เลยทำให้พวกเขาทั้งคู่นั้นสามารถผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ซึ่งมันอิมแพ็คกับคนดูอย่างเรามากๆ และเรียกว่าเป็นบทสรุปที่ซึ้งกินใจทีเดียว

My Big Fat Greek Wedding 3 ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งภาคที่สานต่อเรื่องราวได้อย่างน่าประทับใจอีกครั้ง และความสนุก ความฮา เรียกเสียงหัวเราะ และมุกตลกก็ยังคงจัดเต็มไม่แพ้กับภาคก่อนๆ เช่นเดียวกัน ดังนั้นใครที่ชื่นชอบแนวคอมเมดี้น่าจะต้องชื่นชอบกับมุกตลกและตบมาเรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่องแน่ๆ อีกทั้งเรื่องราวและบทสรุปที่ถือว่ากลมกล่อมมากๆ จนเรียกได้ว่าจบแบบฟีลกู๊ดและก็เป็นเรื่องที่เล่ามาได้แบบฟีลกู๊ดตั้งแต่ต้นอีกด้วย