รีวิว Road House (2024) คนเดือดบวกเมืองเถื่อน

รีวิว Road House (2024) คนเดือดบวกเมืองเถื่อน

อดีตนักชกชื่อดังที่ผันตัวไปเป็นนักชกใต้ดินถูกเสนองานการ์ดให้ต่อด้านกลุ่มนักเลง โดยไม่รู้ว่านักเลงเหล่านั้นมีแผนซ่อนเร้นสุดอันตรายรออยู่

ช่วงพักหลังมานี้เราจะเห็นบรรดาหนังฮอลลีวูดนั้นพยายามนำผลงานเก่ากลับมาสร้างใหม่กันต่อเนื่องหลายเรื่องทีเดียว ซึ่งก็ถือเป็นความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากผลงานบางเรื่องเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซที่ยากจะเทียบเคียงได้ ทำให้การนำมาสร้างใหม่หรือการรีเมคแบบนี้จึงมักถูกนำไปเปรียบเทียบกับต้นฉบับ เช่นเดียวกับ Road House คนเดือดบวกเมืองเถื่อน หนังแอคชันสุดระห่ำที่สร้างใหม่จากต้นฉบับในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ซึ่งในการรีเมคใหม่ครั้งนี้ถือว่าเป็นการยกเครื่องหลายอย่างและอัปเดตให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้นอย่างน่าสนใจเลยทีเดียว

Road House คนเดือดบวกเมืองเถื่อน จะเล่าเรื่องราวของอดีตนักชกชื่อดังในรายการ UFC อย่าง Elwood Dalton (แสดงโดย Jake Gyllenhaal) ที่เกิดผันตัวไปเป็นนักชกใต้ดินด้วยเหตุจำเป็นหลังจากที่เขาเคยได้ก่อวีรกรรมบนสังเวที ต่อมาก็ได้พบกับ Frankie (แสดงโดย Jessica Williams)  เจ้าของร้านบาร์ Road House ที่เสนองานการ์ดให้เขา เนื่องจากบาร์ของเธอถูกนักเลงรังควาน งานนี้ทางด้านของหนุ่มนักสู้อย่าง Dalton จึงได้ตอบรับโดยไม่รู้ว่านักเลงเหล่านั้นมีแผนซ่อนเร้นสุดอันตรายรออยู่

สำหรับเวอร์ชันภาพยนตร์ในปี 2024 นี้ ได้ผู้กำกับอย่าง ดั๊ก ไลแมน ซึ่งเขาถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพยนตร์แอคชันสุดอลังการไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้ว่าผลงานล่าสุดของเขาเองจะไม่ได้โดดเด่นสักเท่าไร แต่ก็ยังมีทั้งเรื่องประสบความสำเร็จและเรื่องที่ได้เข้าฉายทางสตรีมมิงด้วย เช่นเดียวกับ Road House เวอร์ชั่นนี้ที่ทางตัวของเขาเองถึงกับออกมาแสดงความไม่พอใจที่ไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วโลก ในส่วนนี้อาจจะต้องรอดูกันต่อไป

ในด้านของงานภาพยนตร์ถือว่าเวอร์ชันใหม่นี้จะเป็นการผสมผสานระหว่างการสร้างใหม่ และการเริ่มต้นใหม่ๆ โดยที่ยังคงโครงเรื่องหลักจากต้นฉบับแต่ได้มีการปรับและดัดแปลงเนื้อเรื่องบางส่วนไปบ้างให้สอดคล้องกับยุคสมัยมากขึ้น แม้ว่าโดยรวมแล้วบทภาพยนตร์อาจจะดูล้าสมัยอยู่บ้างถ้าว่ากันตามตรงๆ แต่ก็ยังสามารถทำให้ Road House เป็นแรงบันดาลใจของหนังแอคชันสุดระห่ำในยุคใหม่ๆ แบบนี้ได้อยู่ เพราะมีนักเขียนหน้าใหม่สองคนมาร่วมรังสรรค์บทภาพยนตร์นี้ด้วยนั่นเอง

หากพูดถึงเรื่องความบันเทิงก็ต้องให้ Road House ที่เวอร์ชั่นรีเมคนี้ก็สามารถสร้างความสนุก มันส์ ลุ้นระทึกให้กับผู้ชมอย่างเต็มอิ่ม เพราะถือว่าใช้สูตรสำเร็จแบบสไตล์เดิมๆ ที่คุ้นเคย บวกกับโครงเรื่องและองค์ประกอบต่างๆ ถูกนำกลับมาใช้ใหม่จากหนังเรื่องก่อนๆ ของทางผู้กำกับเอง ซึ่งทำให้ผู้ชมสามารถคาดเดาเนื้อเรื่องได้อย่างง่ายดายเลยก็ว่าได้

พอมาในด้านขององค์ประกอบงานสร้างก็ถือว่าสามารถทำได้อย่างโดดเด่นตามสไตล์ของผู้กำกับ ดั๊ก ไลแมน ที่มักจะสร้างหนังแอคชันอลังการ โดยถ่ายทอดจุดนี้ได้อย่างทัชใจจริงๆ ยิ่งในฉากต่อสู้และการออกแบบฉากแอคชันต่างๆ ก็ทำออกมาได้สนุกและน่าตื่นเต้นหวิดใจกันสุดๆ และที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือนักแสดงนำอย่าง เจค จิลเลนฮาล ก็ทำการบ้านมาอย่างดี เล่นได้อย่างโดดเด่นเกินหน้าบทจริงๆ ความสามารถสุดจะเป็นมืออาชีพของเขาที่ต้องอวยเลยว่าทำให้หนังมีออรรถรสและสนุกยิ่งขึ้น

ขอสรุปโดยรวมแล้วกันว่า Road House ฉบับปี 2024 นี้นั้นก็สามารถนำเสนอผลงานที่การผสมผสานกันได้ลงตัวระหว่างความคลาสสิกและความร่วมสมัยขึ้น โดยปรับด้านรายละเอียดให้มันสอดคล้องเข้ากับในยุคปัจจุบันขึ้น เรียลขึ้น ในขณะที่ก็ยังคงรักษาแก่นของต้นฉบับไว้ได้อย่างสมบูรณ์อยู่เหมือนเดิมเลย ความพยายามสร้างผลงานครั้งนี้ใหม่โดยที่เจาะเพื่อตีความใหม่แบบนี้ก็ทำเราให้ได้เห็นว่าเนื้อหามันได้เปิดโอกาสให้ผู้ชมยุคเจเนเรชั่นใหม่ๆ ได้เข้าถึงหนังเก่าๆ สตอรี่เก่าๆ ที่เล่าใหม่ได้ง่ายมากขึ้น สนุก น่าติดตาม

ด้านงานฉากแอคชั่นต่างๆ นั้นก็ถือว่าทำได้ในมาตรฐานที่ดีเลยเพียงแต่มันอาจจะดูเก่าๆ ไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรใหม่ๆ ให้ได้ว้าวกันสักเท่าไร  แม้ว่าจะพยายามสร้างความดิบเถื่อนให้กับบทและฉากเพิ่มไปแล้ว แต่ก็เรียกว่ายังไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างเต็มที่ ด้วยรูปแบบการต่อสู้ที่ค่อนข้างเชยและเอ้าท์ไปแล้ว เพราะไม่ได้นำเสนอสิ่งใหม่หรืออะไรที่ทำให้ผู้คนจดจำได้มากขนาดนั้น เอาเป็นว่าจะถูกจริตของท่านหรือไม่นั้นก็ต้องไปติดตามรับชมกัน